FacebookPinterest

โรคราแป้ง

โรคราแป้ง หรือโรงใบพอง สาเหตุเกิดจากเชื้อรา Sphaerotheca pannosa เป็นโรคที่พบในแปลงกุหลาบทั่วไป

ลักษณะอาการ

  • ส่วนมากเกิดกับใบอ่อน ยอดอ่อน และดอกอ่อน
  • ใบ: เริ่มแรกผิวใบด้านบนจะมีลักษณะนูน อวบน้ำเล็กน้อย บริเวณนั้นจะมีสีแดงและจะสังเกตเห็นเส้นใยขุยและอับสปอร์สีขาวเด่นชัดบนผิว และท้องใบของใบอ่อน
  • ใบ: ใบอ่อนใบจะบิดเบี้ยว หงิกงอและปกคลุมด้วยผงสีขาวคล้ายผงแป้ง ส่วนใบแก่อาจไม่เสียรูปแต่จะมีราแป้งเป็นวงกลม
  • ใบ: ถ้าเป็นมากตรงที่เกิดอาการจะมีสีม่วงถึงดำ
  • ใบ: ใบจะร่วงจากต้น
  • กิ่ง: เชื้อราแป้งจะเริ่มเจริญบนกิ่งอ่อนอวบน้ำ โดยเฉพาะบริเวณโคนของหนาม เชื้อจะยังคงเจริญต่อไปเมื่อเป็นกิ่งแก่
  • ดอก: เชื้อราเข้าทำลายดอก คอดอก กลีบเลี้ยง และฐานดอก ดอกตูมจะมีรูปร่างบิดเบี้ยวและไม่บาน หรือบานแต่ดอกไม่สมบูรณ์เสียรูปทรง

สาเหตุ และการระบาด

  • แพร่กระจายด้วยการแพร่สปอร์ปลิวไปตามลม
  • พบในพื้นที่ปลูกที่มีอากาศหนาวเย็น
  • ที่ที่น้ำค้างลงจัด
  • กลางคืนความชื้นสัมพัทธ์ที่ 90-99% และกลางวันที่ 40-70% เชื้อราจะเกิดภายใน 3-6 วัน
  • ราแป้งจะเป็นอันตรายมากถ้าผู้ปลูกเลี้ยงให้ปุ๋ยไนโตรเจนมากจนเกินไปในระยะที่อากาศหนาวเย็น

การป้องกัน

  • ใช้สารเคมีทุก 7 วันเมื่อความชื้นเข้าเกณฑ์ ในวันถัดไปพ่นด้วยกำมะถันผง
  • ใช้สารเคมีทุก 3 ครั้งทุก 4-7 วันเมื่อพบ
  • ใช้สารเคมีต่างกลุ่มสลับกันทุกๆ 3 ครั้ง
  • ยาที่ใช้ได้ผล: เบนเลท, ดาโคนิล, คาราเทน, กำมะถันผง, โดดีมอร์ฟ อะซีเตท, ไตรดีมอร์ฟ, ไตรโฟรีน, เฮกซาโคนาโซล, ไพราโซฟอส
  • กำจัดใบและนำไปเผาทำลาย
  • เมื่อเจอจะต้องใช้สารเคมีควบคุมทันที เพราะถ้าช้าไป 1 วันเชื้อจะกระจายออกไปอย่างรวดเร็ว

Note: การลดความชื้นทำด้วยการใช้พัดลม หรือการระบายอากาศ หรือโดยการให้ความร้อนและระบายอากาศ

Tags: